Tom Founder18126
ผม สายศักดิ์ แสงกระจ่าง ครับ เรียกชื่อสั้นๆว่า “สอง” เป็นลูกคนกลาง มีพี่น้องอีก 2 คน ชื่อเรียงกันมาเป็น “หนึ่ง สอง สาม” เกิดมาในครอบครัวของพ่อค้าวัสดุก่อสร้าง “รับเหมาก่อสร้างทั่วราชอนาจักร ตั้งแต่บ้านเดี่ยว ทาวด์เฮาส์ หมู่บ้าน ยันถึง สนามบิน” ดูเหมือนร่ำรวยเพราะมีหน้าร้านขนาดใหญ่ รถหรูเยอะ แต่ความเป็นจริงเต็มไปด้วย “ความเสี่ยง” เพราะทุกอย่างเป็นเครดิต และต้องหมุนเงินปีละ 400-500 ล้าน พร้อมภาระรับผิดชอบชิวิตลูกน้อง กว่า 200 ชีวิต
จนเมื่อปี 40 ด้วยพิษเศรฐกิจฟองสบู่แตก ครอบครัวของผมถูกศาลฟ้องล้มละลาย ชิวิตจากเด็กหนุ่มว่าที่ไฮโซ ที่เพื่อนๆในโรงเรียนหลายๆคนอิจฉา กลายเป็นเด็กเกือบจะไม่มีที่เรียน เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ด้วยปัจจัยเศษฐกิจตกต่ำที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ รถหรูเกือบ 10 คัน บ้านหรู 5 ห้องนอนในพื้นที่ขนาดมโหฬาร กลายเป็น กะบะเก่าๆ 1 คัน กับคฤหาศน์โทรมๆที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และรกจนเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทุกชนิด แต่ด้วยการต่อสู้ของคุณพ่อ คุณแม่ “สู้ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่มีหวัง” “สู้ทั้งๆที่ไม่มีแรง” “สู้ทั้งๆที่ท้อ” “สู้ทั้งๆที่ใครหลายๆคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้” เป็นเวลา 5 ปี ก็สามารถเอาชนะความจนได้ กลับมามีกิจการโรงไม้เป็นของตนเองจนทำกำไรได้ถึงเดือนละ 7 หลัก ส่งลูกสาวเรียน นานาชาติ และลูกชายอย่างผมเรียน ABAC ได้ เหมือนกับคำที่กล่าวว่า “ไม่ว่าจะกี่พันคนบอกว่าคุณทำไม่ได้ แต่ถ้าคุณหนึ่งคนบอกตัวเองว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้” ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า “ชีวิตคนเราไม่มีใครขึ้นสุดแล้วไม่มีขาลง และไม่มีใครลงสุดจนไม่มีขาขึ้น” อยู่ที่ทัศนคติเมื่อเราเผชิญปัญหาต่างหากว่าเราจะมองโลกในมุมไหน เราจะเลือกมองความสำเร็จที่เคยมีหรือจะมองสิ่งที่เหลืออยู่และลุกขึ้นสู้กับอนาคตต่อไป
เรื่องราวทั้งหมดที่ผมเขียนมานั้นแหละครับคือคำว่า “โอกาส” มันมีอยู่ทุกที่กับถนนทุกเส้น และเงินมันก็ไม่ได้หายากอย่างที่ใครๆหลายคนเข้าใจ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเปลี่ยน “โอกาส” ให้กลายเป็น “เงิน” ได้อย่างไร แม้กระทั่งขยะเหม็นๆที่คนส่วนมากมองเป็นสิ่งไร้ค้า ก็ยังมีตัวอย่างเศรษฐีรุ่นใหม่เกิดขึ้นจากการค้าขยะ ในงานศพก็มีคนทำเงินจากการขายพวงหรีด และแม้กระทั้งวันอกหักก็ยังมีคนทำเงินจากการขายบทเพลง เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องเงินหายากตัดไป ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหาเงินได้อย่างไร คุณต้องเปลี่ยนคำถามในใจก่อน จาก “ทำไมคนอื่นถึงรวย แต่เราถึงจน” เป็น “คนอื่นรวยได้อย่างไร” แล้วเราจะรวยด้วยวิธีไหน เพราะ “คำถามที่ดีจะนำมาซึ่ง คำตอบที่ดีเสมอ”
เมื่อสามปีก่อน มีรุ่นพี่มาแนะนำธุรกิจ Clover Group ให้ผมฟัง ผมจึงตั้งคำถามที่ดีให้กับตัวเองว่า หากผมต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจ โดยไม่มีความเสี่ยง และผมสามารถพลาดกี่ครั้งก็ได้ ขอแค่สำเร็จครั้งเดียวสำเร็จไปทั้งชีวิต จะมีอาชีพไหนให้ผมได้บ้าง คำตอบที่ได้รับคือ ธุรกิจเครือข่ายเพราะเงินลงทุนต่ำ ไม่มีความเสี่ยง สามารถพลาดกี่ครั้งก็ได้เพราะมันไม่มีวันขาดทุน และที่สำคัญธุรกิจนี้จะเป็นสะพานไปสู่นักธุรกิจไฟแรงมากมาย ทำให้ผมสามารถเข้าถึง Connection มหาศาล ในวันที่ผมอยากทำให้ความฝันที่จะเป็นนักธุรกิจพันล้านมันยิ่งเอื้อมง่ายขึ้น แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่วัยรุ่นมีความฝันอย่างผมจะไม่ลอง
ผมเริ่มต้นธุรกิจทั้งๆที่ไม่พร้อมทางด้านการเงินและเวลา เพราะก่อนผมเริ่มธุรกิจได้ 1 อาทิตย์ผมเป็นหนี้พนันบอลกว่า 300,000 บาท และต้องหลบหน้าเจ้าหนี้เพราะถูกขู่เก็บเงินตลอดเวลา แต่ด้วยตัวอย่างการสู้ชีวิตของคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่เคยมีข้อแม้ต่อความสำเร็จหรือกลัวความลำบากแต่อย่างได สู้เพื่อลูกๆอย่างพวกเรา 3 พี่น้องมาทั้งชีวิต ทำให้ผมคิดว่าในฐานะลูกที่ดีหนึ่งคนต้องรีบประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุดเพื่อที่ท่านทั้งสองจะได้หมดห่วง และไปใช้ชีวิตอย่างที่ท่านทั้งสองต้องการ เพราะในขณะที่ลูกๆอย่างพวกเรามีวันพ่อวันแม่แค่ปีละ 2 หน อีกมุมนึงของผู้เป็นพ่อเป็นแม่...ท่านคิดว่าตั้งแต่ท่านมีเรา ทุกๆวันของท่านคือ “วันลูก” ท่านทำทุกอย่างเพื่อให้เราอยู่สบาย
เรื่องราวทั้งหมดนี้เลยเป็นแรงพลักดันให้ผมเริ่มต้นธุรกิจด้วยมุมมองไม่เหมือนใคร ผมโดนปฎิเสธนับร้อยหน โดนประนามนับพันครั้ง แต่ผมก็ฝืนทำในสิ่งที่ผมไม่ชอบเป็นระยะเวลา 15 เดือน ผมสามารถเปลี่ยนรายได้จาก 5,000 บาทเป็น 105,000 บาท และผมสามารถพิชิตรายได้ 250,000 บาทด้วยระยะเวลา 25 เดือน สามารถไปเที่ยวต่างแดนกว่า 10 เมืองทั่วโลก ได้ซื้อรถยนต์ BMW เป็นของตัวเอง เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้เพื่อนได้มากมายและที่สำคัญ ผมทำให้พ่อแม่ภูมิใจว่า “ผมคือลูกคนใหม่ของเขา”
ต้องขอขอบคุณระบบ Clover Group ที่เปลี่ยนกระบวนทัศน์เด็กรุ่นใหม่
จากวัยรุ่น “รักสนุก” เป็นวัยรุ่น “รักครอบครัว”
เคล็ดลับ 3 ข้อ ที่ผมยึดในการประสบความสำเร็จคือ
1.ทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำด้วยตัวเอง..เพื่อที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่คนส่วนมากไม่รู้
2.ถามในสิ่งที่ผมไม่รู้โดยไม่สนว่าใครจะมองว่าผมโง่..เพราะผมจะเป็นคนโง่แค่ชั่วคราว ไม่ใช่คนโง่ถาวร
3.คิดต่างคิดนอกกรอบจากคนทั่วไป..เพราะถ้าเราคิดแบบคนทั่วไปเราจะกลายมาเป็นคนธรรมดา
เมื่อวันที่ 23 กันยายน เวลา 2:53 น.