วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การเคลียร์ความคิด : ถ้าทำธุรกิจนี้สักระยะ แล้วไม่ Move เป็นอะไรไหม?

Avatar
ตุ้ม THE CLOVER Platinum Star
ถ้าทำธุรกิจนี้สักระยะ แล้วไม่ Move เป็นอะไรไหม?

มีน้องคนหนึ่ง ถามตุ้ม ถึงคำถามนี้มา
และตุ้มรู้สึกว่า หลายๆคน ที่เข้ามาทำธุรกิจนี้ได้สักระยะ
อาจจะเคยเกิดคำถามเดียวกันนี้ ในใจ ตุ้มจึงขอนำคำตอบ
ที่ตุ้มได้ตอบ น้องคนนี้เอาไว้ มาแชร์ใน Myclover ครับ

*************************************

พี่ว่า ขึ้นอยู่ที่ว่า คำว่า มูฟ ของเราคืออะไร
อย่างที่ระบบเราบอกเอาไว้ว่า
เวลาตั้งเป้าหมาย เราควรตั้งเป้าหมาย สี่มิติ
คือ PV / คนเข้าระบบ /
ทักษะแนวคิด / การใช้ระบบและสินค้า100%

วันนี้ เป้าหมายฝั่งซ้าย คือ PV / คนเข้าระบบ
เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ คือเราไม่รู้หรอกว่า
สิ้นเดือน เราจะมี PV เพิ่มไหม เราจะมีคนเข้าระบบเพิ่มไหม
เพราะมันไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่บุคคลอื่น

ในขณะที่เป้าหมายฝั่งขวา คือ ทักษะแนวคิด
การใช้ระบบ และสินค้า 100%
เป็นเป้าหมายที่เราควบคุมได้ เพราะไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย
เป็นเป้าหมายที่เกี่ยวกับตัวเราเองล้วนๆ

ดังนั้นแล้ว ถ้าสิ้นเดือน PV / คนเข้าระบบ ไม่ได้เพิ่มขึ้น
ไม่ต้องเสียใจ เพราะเราควบคุมไม่ได้
แต่ต้องกลับมาเช็ค เป้าหมายฝั่งขวา
ตัวเราได้ใช้สินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อขยายหน้าร้านไหม?
ตัวเราได้ฟังสื่อเพิ่มขึ้น หรือได้อ่านหนังสือดีๆ
เพื่อพัฒนาแนวคิด หรือความรู้ของเราเพิ่มขึ้นไหม

ทีนี้ เรื่องของการพัฒนาทักษะ นี่ล่ะ
ที่น่าจะเป็นปัญหาที่หลายๆคน ยังไม่เข้าใจ
เพราะหลายๆคน มักจะเข้าใจว่า ความรู้ กับ ทักษะ
มันเหมือนๆกัน แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่
ความรู้ คือ สิ่งที่เราได้เรียน
แต่ทักษะ มันไม่ได้จากการเรียน แต่เกิดจากการทำ

ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ ให้เราเขียนชื่อเราเอง
ด้วยมือข้างที่เราถนัด ใครๆ ก็คงเขียนได้สบายๆ
แต่ถ้าให้เขียนด้วยมือข้างที่เราไม่ถนัด
หลายๆคน ก็จะเขียนลำบาก เขียนไม่ตรง เขียนไม่สวย
นั่นเป็นเพราะ เรารู้ว่า ต้องเขียนอย่างไร
แต่เราไม่เคยใช้มือข้างที่ไม่ถนัดเขียน เราเลยไม่มีทักษะ

ดังนั้นแล้ว วันนี้ การที่เราจะพัฒนาทักษะได้
มันก็ต้องอยู่ที่ว่า เรามีเนื้องานมากพอหรือเปล่า?

ถ้าวันนี้ เราไม่ Move เราอาจจะต้องประเมินตัวเอง
ด้วยการเช็ค สองอย่าง อย่างแรก คือ ปริมาณ
ถ้า ปริมาณเนื้องาน เราไม่มากพอ
ไม่ได้สอดคล้องกับเป้าหมายที่เราตั้งไว้
ไม่ได้เยอะมากพอ ที่จะทำให้เกิดกฎค่าเฉลี่ย
มันก็อาจจะไม่แปลกที่เรายังไ่ม่ Move

แต่ถ้าเราทำเนื้องานมากพอแล้ว แต่ยังไม่ Move
เราต้องมาดูปัจจัยที่สอง คือ คุณภาพ
คือ เราสามารถ ทำให้ดีขึ้นอีกได้ไหม
เราเคยเช็คทักษะของเรากับโค้ชหรือเปล่า
เราเคย AAR กับโค้ชของเราไหม?

ถ้าคุณภาพยังไม่ดีพอ ก็อาจทำให้ค่าเฉลี่ยออกมาน้อย
แต่ถ้าคุณภาพเราดี ก็จะทำให้ ค่าเฉลี่ยคนสนใจเพิ่มขึ้น

ถ้ารู้สึกว่า ปริมาณเราก็เยอะแล้ว คุณภาพเราก็ดีแล้ว
แต่ยังไม่ Move ทางด้าน คนเข้าระบบ ก็ไม่เป็นไร
เพราะเราอาจจะแค่ ยังไม่เจอคนที่ ใช่
แต่อยากให้มั่นใจว่า ถ้าเราทำธุรกิจนี้ ต่อเนื่องและนานพอ
เราต้องเจอคนที่ใช่ ในธุรกิจนี้แน่นอน
อยากให้เชื่อว่า วันที่เราสำเร็จในธุรกิจนี้มีอยู่จริง
สำคัญที่ว่า เมื่อวันนั้นมาถึง เรายังอยู่ในธุรกิจนี้หรือเปล่า
หรือว่า เราท้อ และเลิกไปก่อนนั่นเอง

เพราะธุรกิจนี้ ไม่ได้สำคัญที่ทำเยอะ ทำหนัก
แต่สำคัญที่ การทำงานต่อเนื่องมากกว่า ^^

ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ กับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนนะครับ
My name is Prayuth Chatsakda and I am Clover

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แนวคิด : งาน Active กับ Passive กับการลดน้ำหนัก


หลังจากอดทนมีวินัยมาได้ 43 วัน ผลประกอบการคือไขมันสะสมที่ลดลง พุงกะทิมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ดูเฟิร์มขึ้นครับ

ตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นมา ก็ยังควบคุมอาหารตามปกติอยู่ เพราะการเลือกกินแบบถูกหลักโภชนาการตลอด 43 วันทำให้ติดเป็นนิสัยแล้วครับ แต่ว่าก็เริ่มผ่อนคลายกฏที่เข้มงวดทั้งหลายลงมาก ผมเริ่มอนุญาตให้ตัวเองทานหลัง 1 ทุ่มได้ ทานของทอดได้ ทานของหวานได้ เพราะเราอยู่ในระดับที่ burn ออกได้ง่ายกว่าแต่ก่อนและมีกล้ามเนื้อช่วย burn มากขึ้น ทานมา 2 วันจนเมื่อวันอังคารผมเริ่มรู้สึกอึดอัด เลยรีบไปออกกำลังกาย ปรากฎว่า วันพุธน้ำหนักก็กลับลงมาเท่าเดิม และไขมันสะสมก็ลดลงไปเท่าวันเสาร์เลย

...

อยากแชร์ครับ เพราะคุยกับหลาย ๆ คนมา เลือกที่จะคุมอาหารเพียงอย่างเดียวแล้วอ้างว่า "ไม่มีเวลา" ไปออกกำลังกาย ขอบอกเลย แบบนั้นต้องระวังนะครับ ถ้าน้ำหนักลงเพราะเราลด input อย่างเดียว แล้วเราไม่ได้สร้างกล้ามเนื้อมาช่วยเพิ่ม output มันจะลดยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะร่างกายเราจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับปริมาณ input ใหม่ จนเราจะเริ่มเห็นว่า เราก็มีวินัยในการกินนะ ทำไมน้ำหนักไม่ลงต่อแล้วอ่ะ?

มันเหมือนเราทำงาน active อย่างเดียวอ่ะครับ นับวันเงินเฟ้อยิ่งเพิ่มขึ้น ทุกอย่างจ้องแต่จะขึ้นราคา ถ้าเราไม่สร้างรายได้แบบ passive มาช่วยอีกทาง เราจะต้องเหนื่อยขึ้น ทำงานหนักขึ้น เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกปี น่ากลัวไหมล่ะครับ? ดังนั้น สร้างกล้ามเนื้อเถอะครับ เชื่อผม มีกล้ามเนื้อมาช่วย burn สิ่งที่เรากินเข้าไป ออกกำลังกายเท่าเมื่อวาน แต่เรา burn ไขมันได้มากกว่าเมื่อวาน ฟินไหมล่ะ?

ตัดสินใจให้เด็ดขาดนะครับว่าเราแค่ "อยากได้" หรือเรา "ต้องได้" ?
ตั้งใจทำทั้งงาน active และ passive ไปพร้อมกันเลยครับ

active = รีดไขมันออก ด้วยการคุมอาหาร + exercise
passive = สร้างกล้ามเนื้อมาช่วยรีดไขมัน ด้วยการกินเน้นโปรตีน + weight training

เหนื่อยทีเดียวครับ กัดฟัน 3 เดือน 6 เดือน รีดไขมันให้หมด สร้างกล้ามเนื้อมาช่วยเผาไขมัน แถมยังดูเฟิร์มขึ้น กระชับขึ้น แล้วเราจะตามใจปากได้เป็นปีเลยครับ สาว ๆ อย่ากลัวกล้ามขึ้นครับ มันไม่ได้ขึ้นกันง่าย ๆ จะให้กล้ามเห็นชัด ๆ นั้นเค้าต้องยก weight กันแบบเพิ่มน้ำหนักไปเรื่อย ๆ ถ้าคุณใช้ดรัมเบลอันน้อยอันเดิมตลอด อย่าหวังเลยครับว่ากล้ามจะโต ไม่ต้องกลัวครับ

...

คนหุ่นดีนี่ มันบ่งบอกอะไรในตัวคุณได้หลายอย่าง เพราะไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะซื้อหุ่นดี ซื้อสุขภาพดีได้นะครับ มันแสดงถึงความใส่ใจและวินัยที่มากมายจริง ๆ ลองถามตัวเองดูครับ ถ้าพยายามลดน้ำหนักมาหลายครั้งแล้วไม่สำเร็จละก็ เราแค่ "อยากได้" ที่ไม่ได้ก็ "ไม่เป็นไร" หรือเราจะบอกตัวเองใหม่ว่า "ไม่ได้ไม่เลิก" !!!?

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แชร์ประสบการณ์และผลลัพธ์ การมีหุ่นกระชับอย่างสุขภาพดี โดยรองชนะเลิศอันดับ1 Mastershape#3 น้องแอ๊ป

Avatar
Appz Giver PT star4455
แอ๊ปมีโอกาสเข้าร่วม คอร์ส "Master Shape Season#3" ที่ทางบริษัทจัด จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์และผลลัพธ์ของตัวเองค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า แอ๊ปเป็นลูกคนจีน พ่อแม่เลี้ยงลูกทั้ง 3 คนได้อ้วนทุกคน ตัวเราไม่เคยรู้จักคำว่า "ผอม" จริงๆใจลึกๆพอเราโตมาเรารักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ก็อยากที่จะผอมสวย แต่ไม่เคยทำได้ จึงได้แต่ปลอบใจตัวเองไปวันๆว่า "ฉันอ้วนและสวย ก็เป็นตัวฉันดี" ตราชั่งไม่เคยขึ้นเลข 4 ตั้งแต่รู้จักชั่งน้ำหนักตอนม.ต้นก็หนัก50 แล้วก็ขึ้นๆมาตลอด จนก่อนมาเจอเอมสตาร์หนักที่ 57 กก.
ก่อนจะเข้าคอร์สนี้ น้องสาวแท้ๆของเราที่ออกแนวทอมๆ เข้าซีซั่น2 น้ำหนักลดรวม 9 กก. จาก 54 เหลือ 45 กก. ทุกๆวันเราจะเห็นน้องเราผอมลง สุขภาพดีขึ้น ชุดที่เราใส่ไม่ได้ก็ต้องให้น้องลองใส่ แล้วนั่งคิดในใจว่า "สวยจัง" จนเราทนไม่ไหว ขอเข้าซีซั่น 3 บ้าง ด้วยเหตุผลที่ว่า "จะปล่อยให้ทอมมาสวยกว่าเราได้ยังไง"

เมือ่ได้เข้าคอร์ส เราได้เรียนรู้การควบคุมน้ำหนักที่ถูกต้อง + การใช้อาหารเสริมอย่างถูกวิธีและเสริมพลังการลดน้ำหนัก อย่างแรกเราหาแรงบันดาลใจที่ชัดเจนมากๆๆๆ เพราะมันจะทำให้ตลอด 43 วัน "เราได้ทำอะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำ" แรงบันดาลใจของแอ๊ป ที่ใฝ่ฝันไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะทำ คือ "การได้ใส่บิกินี่ บราสีเขียว กางเกงสีชมพู" พอแรงบันดาลใจเราชัด เราก็มีใลที่จะบันดาลแรง ให้มีวินัยทำ 3 สิ่ง ควบคู่กันไป

1. ควบคุมปริมาณพลังงานอาหารที่ได้รับ ไม่ให้เกิน 800 - 1,000 แคล ต่อวัน เลี่ยงของทอด น้ำหวาน ขนมหวาน ของมันๆ เบเกอรี่ ทุกชนิด เพื่อนๆต้องค่อยๆปรับตัวเอง ไม่มีใครทำเป๊ะเว่อ ตั้งแต่แรก แต่ถ้าไม่มีก้าวแรก ก็จะไม่ถึงเส้นชัย ส่วนตัวแอ๊ป ไม่ได้ทำง่ายๆ เพระาแอ๊ปทำงานเกี่ยวกับแป้งทอดกรอบ พวกไก่เคเอฟซี เค้ก ขนมปังทุกชนิด ต้องคอยชิมอาหารตลอดทุกๆวัน แต่เราตัดสินใจเด็ดขาด คายทิ้งทุกครั้ง

2. วินัยในการทานอาหารเสริม ต้องออกตัวขอแนะนำเพื่อนๆทุกคนว่า "อย่ากลัวเปลืองเงิน" เพราะยิ่งกลัวเปลืองเงินจะยิ่งเปลือง แอ๊ปเคยลองมาแล้ว AG bloc, 6L ทีละกระปุก2กระปุก กี่ครั้งแล้วคะ ที่มันไม่ไ่ด้ผล ดังนั้นใน 43วัน แอ๊ปจัด 6L ทั้งหมด 8 กระัปุก +AG Bloc 3 กระปุก 2ตัวนี้สำคัญมากๆ ลองคิดๆดูว่าถูกกว่าคอร์สที่อื่นเยอะมากๆ ส่วนตัวแอ๊ปทาน 6L เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน มื้อละ 4 เม็ด และ ทาน AG Bloc มื้อกลางวันและเย็น มื้อละ 2 เม็ด >> 2ตัวนี้ทานก่อนอาหาร 50-60นาที เพื่อนๆคนไหนไม่ใช้อาหารเสริมของเรา ลองทำแต่ข้ออื่น ฟันธง100% ว่ารูปร่างจะไมไ่ด้กระชับขึ้น ปัจจุบันเอวแอ๊ปหายไป 6 นิ้ว+ สะโพกลดไป3นิ้ว +น่องขาบน น่องขาล่างหายไป2นิ้ว+ ต้นแขนลด1นิ้ว หน้าเรียวขึ้นเห็นได้ชัดเว่อ ^^

3. ออกกำลังกาย- ใครหลายๆคนบอกกับตัวเองตลอดว่า "ไม่มีเวลา่" เราบอกตัวเองอย่างนี้มากี่ปี จนทำให้ไขมันเราสะสม สุขภาพไม่ดี เพื่อนๆต้องค่อยๆปรับเวลา จัดเวลา ช่วงแรกจัดเสลาอย่างน้อย 3 ครั้งต่ออาทิตย์ ออกครั้งละ 50-60นาที ยิ่งถ้าไม่มีเวลา แนะนำให้ออกกำลังกายที่ค่อนข้างเห็นผล และเบิร์นแคลอรี่ได้สูง เช่นการวิ่ง ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค หรือเราสามารถทำท่าง่ายๆระหว่างทำงาน หรือ ขณะอาบน้ำแปรงฟัน,, เชื่อแอ๊ปนะคะ ออกกำลังกายคู่กับการทาน 6L จะตะลึงกับรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไป

สิ่งเล้กๆน้อยๆที่เราต้องทำ คือ ชั่งน้ำหนักเช้า และ ก่อนนอน ทุกวัน เหมือนเราจด PV record เลยก็ว่าได้ ลงทุนซื้อตราชั่งดิจิตอลมา แล้วจะรู้เลยว่า ซื้อมาหลักร้อย แต่ใช้คุ้มยิ่งกว่าหลักหมื่น

3 อย่างที่แอ๊ปทำแบบมีวินัย ทำได้ดี เพราะมี "บรรยากาศหรือเพื่อร่วมทางที่ดี" ขอบคุณๆๆๆ เพื่อนในกลุ่มไลน์มาสเตอร์เชป หลายๆครั้งที่เผลอจะกลืน ต้องหยิบมือถือมาอยู่กับเพื่อนๆ หลายๆครั้งที่น้ำหนักเรายังไม่ลด แต่เก็นน้ำหนักคนอื่นลด เราดีใจด้วยและมีความหวังต่อไป ที่สำคัญที่สุด ขาดไม่ได้ คือการมีโค้ชที่ดี ขอบคุณ "พี่ซิง" ขอบคุณจากใจ ที่คอยชี้แนะทุกๆเรื่องตลอดเส้นทาง

เดือนพ.ค.น้ำหนักแอ๊ปอยู่ที่ 57 กก 29 มิ.ย.วันเริ่มคอร์สหนักที่ 53.8 วันที่ 10 ส.ค.วันตัดสิน น้ำหนักอยู่ที่ 47.8กก. ลดรวม 6 กก.ในคอร์ส43วัน และรวม 9 กก.ภายใน 3 เดือน ตอนนี้ยังใส่บิกิี่ได้ไม่สวย ตั้งเป้าหมายลดเพิ่มอีก 2.8 ให้เหลืิอ 45 กก. ภายใน 30วัน ได้เห็นแอ๊ปใส่บิกินี่ เที่ยวกับครอบครัวที่เกาะช้าง ปีใหม่นี่แน่นอน

นอกจากเรื่องสุขภาพ รูปร่าง ที่ดีขึ้น แอ๊ปยังมีโอกาสแชร์ประสบการณ์บนเวที และคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ "mini Ipad" มาได้ ต้องขอบคุณเืพื่อนๆ Clover group และ Clover Giver ทุกคน ที่เดินเคียงข้างให้กำลังใจมาโดยตลอด :)

"ลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก ขึ้นอยู่ที่ปากว่าจะควบคุมได้ขนาดไหน " ,,, แอ๊ป ธีรนุช เร่งวัฒนะชัย