Tom Founder18126

ผมอร่าม ชวเจริญพันธ์ เต้ครับ กว่าจะมีวันนี้ได้ เมื่อก่อนผมเรียนไม่เก่ง พูดไม่เก่ง ไม่มีเวลา และ มีชีวิตที่ดีอยู่แล้วครับ ทุกคุณสมบัติของผมมีที่มาที่ไปนะครับ

ตอนที่1 “พูดคล่องเพราะคลุกคลี พูดดีเพราะคุ้นเคย”
ผมเรียนไม่เก่ง พูดไม่เก่ง เพราะ ผมไม่ชอบเรียน และกิจกรรมที่เกลียดที่สุดตอนเรียน คือ งานที่ต้องมานำเสนออาจารย์และเพื่อนๆหน้าห้อง
โชคดีที่ผมได้คำตอบว่า“เกรดไม่ได้มีผลกับชีวิตมากนัก” ผมพบว่าการได้เกรดBเป็นB+ ชีวิตไม่ได้ต่างกันเลย มีเยอะแยะที่คนล้มเหลวในการเรียนจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากกว่าพวกประสบความสำเร็จในการเรียน
ผมไม่สนงานประจำตั้งแต่สมัยผมเรียน งานประจำไม่ใช่ไม่ดี แต่ผมรับไม่ได้กับการต้องทนตื่นเช้า ทนทำสิ่งเดิมไม่ชอบ เจอเพื่อนร่วมงานไม่จริงใจ พบเจ้านายที่บ่นตลอดเวลา และค่าตัวเราต่อเดือนที่เรากำหนดเองไม่ได้ ติดต่อกัน40ปี(อายุ20ปีทำงานถึง60ปีถ้าไม่โดนไล่ออกก่อน) เรื่องพวกนี้โชคดีที่ผมคิดได้เองตอนฝึกงานตอนอายุ22ปี เพราะวิชา“คิดกับชีวิตเพื่อประสบความสำเร็จ”มหาลัยไม่ได้สอน
    หลักฐานว่าเรียนไม่เก่งผมเรียนวิศวกรรม เมเจอร์ไฟฟ้า มหาลัยเชียงใหม่ 5 ปีครึ่งกว่าจะจบเกรดเฉลี่ย2.08

ตอนที่2 “มีเงินเป็นหมื่นล้าน ก็ซื้อคำว่าเมื่อวานไม่ได้”
ผมไม่มีเวลาเพราะผมมีความคิดหาเงินดูแลตัวเองตั้งแต่เรียน ผมเคยเจอเหตุการณ์แปลกๆกับเพื่อนผมที่ชอบพูดว่า“ผมโตแล้วนะแม่”แต่สุดท้ายยังแบมือขอเงินแม่อยู่เลย ผมว่าไม่ใช่ ผมเลยเป็นอาจารย์สอนพิเศษหาเงินเอง สอนฟิสิกส์มัธยมปลาย รายได้ดีมากประมาณ40,000-50,000บาทต่อเดือน แต่สอน7วันต่อสัปดาห์ ไม่ได้พัก ตอนนั้นผมเป็นคน “มีเงินแต่ไม่มีเวลา” ทั้งที่เพื่อนส่วนมาก “มีเวลาแต่ไม่มีเงิน” และแปลกใจสุดๆตอนฝึกงานได้รู้ว่าพวกที่ทำงานบางคน “ไม่มีทั้งเงินและเวลา” ก็มีด้วย แต่พ่อผมสอนว่าสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินคือ เวลา คนรวย คนจน ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน อยู่ที่ว่าจะเอา24ชม.ไปทำอะไร

ตอนที่3 “อย่าให้คำว่าดีอยู่แล้ว มาขวางคำว่าดีกว่า”
ผม(เคยคิดว่า)ชิวิตตัวเองดีอยู่แล้วเพราะที่บ้านผมมีธุรกิจที่ดี ผมมีรถยนต์คันละล้านกว่าบาทตอนอายุ20ปี พ่อกับแม่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศและนอกประเทศบ่อยครั้งอยู่แล้ว ผมหาเงินเองได้เดือนละ40,000บาท ผมเป็นลูกคนเดียว
ส่วนภรรยาผม อดิศรา วรรธนาศิรกุล(อ่าย) เธอเรียนจบคณะอุตสาหกรรมเกษตร เมเจอร์ food science เธอจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ2 เกรดเฉลี่ย3.60 และทำงานในหน่วยงานการศึกษาเอกชนของอเมริกาประจำประเทศสิงคโปร์ ซึ่งรายได้ดีมาก และที่บ้านของเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับอาหารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่นี่คือองค์ประกอบที่ทำให้ผมคิดว่าชีวิตดีอยู่แล้ว

ตอนที่4 “เชื่อง่ายไม่ได้แปลว่าโง่ เชื่อยากไม่ได้แปลว่าฉลาด”
     วันที่ผมได้เจอธุรกิจเครือข่ายจากเพื่อนสนิทวันแรกได้ทำการปฏิเสธจะฟังทันทีแบบไม่เกรงใจ เพราะคิดว่าการทำเครือข่าย“ภาพลักษณ์”แย่มาก ไม่มีทางที่ผมจะทำงานที่ต้องตื้อ ง้อ ขอ ขาย เด็ดขาด แต่ด้วยการที่เพื่อนชวนต่อเนื่องติดต่อกัน2เดือนจึงทำให้ผมยอมฟังด้วยความเกรงใจ วันที่ฟังไม่“เต็มใจฟัง”แต่“ตั้งใจฟัง”เพราะอยากฟังให้เข้าใจ จะได้ปฏิเสธเพื่อนแบบมีเหตุผล แต่พอผมได้เจอคนสำเร็จได้เห็น“ผลลัพธ์ที่มีที่มาที่ไป สินค้าดี แผนดี ระบบดี เป็นไปได้”ทำให้ผมเชื่อและทำทันที

ตอนที่5 “เรียนเยอะแต่ไม่ทำระวังช้ำ ทำเยอะแต่ไม่เรียนระวังเพี้ยน”
     ตอนเริ่มต้นพ่อ แม่ และอ่าย ไม่เห็นด้วยเลย แต่ผมไม่แปลกใจเพราะพวกเค้าไม่ได้รับข้อมูลเหมือนที่ผมได้รับ แต่ผมเชื่อว่าถ้าผมสำเร็จได้ครอบครัวของผมก็จะมีความสุขไปด้วยแน่นอน ผมเลยขอเวลา1ปีลองทำเต็มที่ดู ถ้าไม่สำเร็จผมจะเลิก ทุกคนเลยยอมให้ทำ
     เดือนแรกผมมั่นใจในเครดิตตัวเองมากๆ ชวนเพื่อนสนิทไปหลายคน แต่ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย เพราะ สื่อที่ผู้เปิดโอกาสผมให้ดูผมก็ไม่ดูเพราะขี้เกียจ รอบประชุมผมก็ไม่ไปเพราะไม่ชอบ ดูวุ่นวาย ก็เลยไม่แปลกที่อธิบายให้คนที่ไปชวนให้เข้าใจธุรกิจไม่ได้เลย เดือนแรกได้เงินจากธุรกิจ 4 บาท ท้อมากครับ แต่ก็ไม่โทษใครเราดื้อเอง จากนั้นเลยเริ่มทำตามระบบ Clover System เต็มที่และมีอ่ายเข้ามาช่วยด้วยเพราะเห็นเราตั้งใจ เหลือเชื่อ เดือนที่6รายได้ผม100,000บาท เดือนที่18รายได้ผม200,000บาท เดือนที่40รายได้300,000บาท

ตอนที่6 “จงเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น จะได้เป็นในสิ่งที่เราเชื่อ”
     รายได้ที่มากขึ้นทำให้ชีวิตดีขึ้น ทุกคนในครอบครัวเปิดใจยอมรับ เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ แต่ซื้อคุณภาพชีวิตได้ ในเดือนที่15ที่ทำผมได้ซื้อคอนโดมูลค่า3ล้านบาท เดือนที่18ผมได้ซื้อรถในฝันAudi TT มูลค่า2.8ล้านบาท และผมยังมีเวลาของตัวเองมากพอที่จะไปเที่ยวฟรีต่างประเทศมาแล้ว12ทริปใน4ปี พาพ่อแม่และอ่ายไปด้วย มีเวลาของตัวเองวันละ24ชม. และยังส่งต่อความสำเร็จให้เพื่อนๆหลายครอบครัวได้รายได้หลักแสนหลักหมื่นต่อเดือนผ่านระบบClover System

และสิ่งที่คอยเตือนผมและอ่ายทำให้เรามีวันนี้ คือ
1.อย่าลืมว่าเราเป็นใคร เรามาจากไหน มีวันนี้ได้ยังไง “อย่าเหลิงกับความสำเร็จ อย่าเข็ดกับความล้มเหลว”
2.อย่าเพิ่งบอกว่ารักดาวไลน์ ถ้าใจและกายเรายังไม่เปลี่ยนอะไรเลย
3.สร้างชีวิตไม่มีง่าย “ปัญหาไม่ใช่หมี ที่จะหนีด้วยการแกล้งตาย” ยังไงก็ต้องเจอ ลุย
4.คำชมทำให้รู้สึกดี แต่คำติที่หวังดีทำให้รู้สึกตัว อย่ากลัวการพัฒนาตัวเอง
5.ความสุขไม่ใช่การที่เรามีเยอะ แต่เป็นการที่เรามีครบ
6.แพ้ให้เป็น แต่อย่ายอมแพ้
เมื่อวันที่ 23 กันยายน เวลา 14:13 น.