Tom Founder18126
ปอยเป็นเด็กเชียงใหม่  จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไป อยากได้อยากมี อยากแต่งตัวสวยๆ ใช้ของดีๆ เสพติดความสุขที่ได้จากการทำบุญและการท่องท่องเที่ยว ปอยโชคดีที่เกิดในครอบครัวที่มีไม่พร้อม คือ ‘มีเงินไม่พร้อม’ ให้เราซื้อในสิ่งที่เราอยากได้ ปอยจึงเรียนรู้ที่จะทำงานหาเงิน มาซื้อสิ่งต่างๆเองตั้งแต่เด็ก ปอยทำงานพิเศษตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นม.4 เริ่มจากเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร แคชเชียร์ เด็กแจกใบปลิว  เด็กในร้านเช่าหนังสือการ์ตูน เป็นครูสอนดนตรีและศิลปะ ครูสอนพิเศษตามบ้าน เป็นนักเขียนคอลัมภ์ลงเว็ปและนิตยาสาร เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษศูนย์ออกแบบ เป็นแม่ค้าหวย(ขายทุกวันที่1และ16) และก่อนเรียนจบได้มีโอกาสฝึกงานกับโรงงานชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้ปอยหาเงินได้มากกว่ารายได้ขั้นต่ำของวุฒิปริญญาตรีตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นปี2

“ก้าวแรกที่สำคัญในการได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการในชีวิต คือ ถามตัวเองก่อนว่าเราต้องการอะไร” ปอยอยากมีเงินเยอะๆ เยอะมากพอที่จะเลี้ยงดูให้พ่อแม่สุขสบาย ปอยจะได้เอาเงินที่เหลือไปท่องเที่ยว ชอปปิ้ง และเผื่อแผ่ไปยังคนที่ด้อยโอกาส โดย‘ไม่รู้สึกผิด’ ต่อบุพการี การมีโอกาสได้เป็น ‘ลูกจ้าง’ ทำงานรับใช้ความฝันให้กับคนอื่น ตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้รู้ว่า ‘ลูกจ้าง’ ไม่มีวันได้เงินมากกว่า ‘นายจ้าง’ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม ตอนเรียนจบปอยจึงมองหาธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากมีกิจการอะไรก็ได้ที่เป็นของเราเองจริงๆ ปอยไม่เลือกทำงานประจำ ไม่เสียดายวิชาหรือเวลาที่เรียนมา แต่เสียดายเวลาที่เหลือในอนาคตมากกว่า ถ้าเราต้องเอาเวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปแลกกับเงินที่เลี้ยงชีวิตไปวันๆ

ในขณะที่กำลังมองหาโอกาสทำธุกิจอยู่นั่น ปอยกลับวิ่งหนีโอกาสที่ชื่อว่า ‘ธุรกิจเครือข่าย’ เพราะตั้งแต่เด็ก ปอยเห็นหลายๆคนรอบตัว ที่ทำธุรกิจประเภทนี้ ถ้าไม่ล้มเลิกก็ล้มเหลวกันหมด จึงทำให้ปอย “ไม่เชื่อ” ในธุรกิจเครือข่าย ในวันที่คุณอ่าย(เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันสมัยประถม)มาแนะนำธุรกิจเอมสตาร์ ปอยก็เพียงช่วยสมัครซื้อสินค้าให้จบๆไป ไม่คิดอยากทำเป็นธุรกิจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเพียงสองเดือนรายได้คุณอ่ายเพิ่มขึ้นจาก 2,000 บาท เป็น 10,000 บาท คำถามที่เกิดขึ้นคือ ‘ถ้าอีก1ปี คุณอ่ายรายได้เพิ่มจากหนึ่งหมื่นบาทเป็น1แสนบาท ตัวปอยเองจะทำงานอะไรที่ให้รายได้ขนาดนี้ด้วยเงินลงทุนแค่300บาท’ ปอยมองว่าเอมสตาร์คือโอกาสที่ง่ายที่สุดที่ปอยจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ปอยจึงตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจ

เส้นทางในการประสบความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ปอยเริ่มต้นด้วยความไม่พร้อม ถูกต่อต้านจากคนที่เรารัก ช่วงแรกแม่ยึดกุญแจรถ กุญแจบ้าน ไปไหนมาไหนต้องนั่งรถสี่ล้อแดง ถ้ากลับดึกต้องปีนรั้วเข้าบ้าน ปอยจึงตัดสินใจมาทำธุรกิจที่กรุงเทพฯ ทั้งที่ไม่มีเงินเก็บเลย “ปอยไม่รอให้ปัจจัยต่างๆพร้อมสำหรับการเริ่มต้น เพราะเชื่อว่าการเริ่มต้นต่างหากที่จะทำให้ปัจจัยทุกอย่างพร้อมเอง” ปอยขออาศัยอยู่หอพักกับเพื่อน จากเคยทานอาหารดีๆบ่อยๆก็เหลืออาทิตย์ละครั้ง ไปห้างก็ได้แต่เดินดู แม้แต่ช่วงลดราคาก็ไม่กล้าซื้อ บอกตัวเองว่า ‘เก็บเงินไว้ทำธุรกิจดีกว่า อีกหน่อยเป็น Ruby จะซื้อให้หมดทุกแบบเลย’ เชื่อว่าทุกอาชีพบนโลกนี้ล้วนแต่ต้องลงทุน แม้แต่ขอทานยังต้องลงทุกซื้อขันใส่เงิน แต่การลงทุนในธุรกิจนี้คือค่าเดินทาง ค่าสื่อ ค่าโทรศัพย์เท่านั้นเอง ปอยเห็นความ “คุ้มค่า” ที่จะ “อดใจ” ไม่ซื้อของบางอย่างที่อยากได้ เพื่อวันหนึ่งจะซื้อได้ทุกอย่าง แต่ละอาทิตย์ปอยจะนั่งรถทัวร์เดินทางทั้งหมดสามจังหวัด ชลบุรี ระยอง ปราจีน เพื่อไปช่วยทีมงานทำเฮ้า วันไหนเลิกดึกก็หาที่นอนเอาข้างหน้า มีหลายครั้งทนไม่ไหวร้องไห้ในรถทัวร์ ถามกับตัวเองว่า ทำไมเราต้องมาทำอะไรแบบนี้ ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า “อดทนนะ เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร”

สำหรับปอย ตลอดเส้นทางในการทำธุรกิจ สิ่งที่ ‘เจ็บปวด’ กว่าคำ‘ปฎิเสธ’ คือคำ ‘ดูถูก’ แต่เราต้อง “ไม่ทำ” ให้ใคร “ทายถูก” ทางเดียวคือปอยต้อง “สำเร็จ” เท่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และอดทน จนในที่สุด ปอยใช้เวลา 2 ปี มีรายได้มากกว่า 100,000 บาท ต่อเดือน และหกเดือนต่อมาก็มีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 140,000 บาท ปัจจุบันปอยเป็นนักธุรกิจระดับ Sapphire Star ซื้อรถยนต์คันแรก Nissan Sylphy 1.8v ราคา 999,000 บาท ในเดือนเกิดอายุครบ 27 ปี เป็นรถราคาไม่แพงมาก แต่เป็นรถที่ปอยภูมิใจเพราะทำให้พ่อกับแม่รู้สึกอุ่นใจ ทำให้ท่านทั้งสองเห็นว่าอย่างน้อยเราก็มีอะไร ‘เป็นชิ้นเป็นอัน’ ขึ้นมา ปอยสามารถ Shopping ซื้อเสื้อผ้าดีๆใส่ แม้ไม่ใช่ช่วงลดราคา สามารถเผื่อแผ่เงินเลี้ยงดูน้องๆและคนที่ด้อยกว่าเรา ปอยได้ออกเดินทางไปดูโลกกว้าง ได้โบนัสเป็น ทริปการท่องเที่ยวมากกว่า 5 ประเทศ และปัจจุบันยังมีธุรกิจของตัวเองเพิ่มขึ้นอีก 2 บริษัท

ปอยเชื่อว่า..​ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ยอดเขาที่ว่าสูง ยังอยู่ใต้เท้ามนุษย์ที่ไม่ละความพยายาม

เคล็ดลับความสำเร็จ
1.) ไม่ลืมคุณคน ไม่ลืมว่าเราโตมาได้ยังไง ใครทำไม่ดีกับเรา เราไม่จำ แต่ใครทำดีกับเรา เราห้ามลืม ผลแห่งการคิดดี คิดตอบแทนบุญคนจะทำให้เราก้าวหน้า
2.) คิดบวก พยายามเข้าใจผู้อื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา อยากได้สิ่งไหนให้ทำสิ่งนั้นให้ผู้อื่นก่อน เพราะธุรกิจนี้ทำงานกับคน ไม่ว่าเจอคนดีหรือไม่ดี ทำถูกใจเราหรือไม่ คิดเสียว่าอย่างน้อยๆเราก็ได้เรียนรู้่คนมากขึ้นอีกประเภทหนึ่ง อย่าหวังเปลี่ยนใคร เราเปลี่ยนได้แค่่ตัวเราเอง
3.) ทำตัวเป็นน้ำแก้วรั่ว เติมความรู้เท่าไหร่ก็ไม่เต็ม ไม่คิดว่าตัวเองรู้แล้ว เก่งแล้ว หรือเคยฟังแล้ว เรียนรู้จากสื่อ หนังสือ รอบประชุมสม่ำเสมอ คนฉลาดมักแกล้งโง่เพื่อให้ตัวเองฉลาดมากขึ้น พ่อปอยสอนตั้งแต่เด็กว่า ไม่มีนักปราญช์คนไหนอยากมอบความรู้ให้กับคนที่คิดว่าตัวเองรู้เยอะ(น้ำเต็มแก้ว)
4.) อ่อนในท่าที แข็งในความความคิด มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีจุดยืนในตัวเอง อดทนและสู้ต่อ อย่าให้ความฝันเราเบากว่าลมปากใคร วันนี้ปอยพูดได้เต็มปากว่า ธุรกิจเครือข่าย ไม่มี “ล้มเหลว” มีแต่ “ล้มเลิก” ไปก่อนค่ะ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน เวลา 22:27 น.