Tom Founder18550
สิ่งที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิต ไม่ใช่การที่เราไม่เคยล้ม แต่คือการลุกทุกครั้งที่ล้ม ชวนากร พิบูลเวช
เรียกสั้นๆว่า เก้ ก็ได้ครับ ผมเกิดมาอยู่ในครอบครัวครัวคนชั้นกลางๆ คุณพ่อคุณแม่ทำงานประจำ แต่ได้หย่าร้างกันไป ผมเป็นลูกคนเดียวที่นิสัยเอาแต่ใจตัวเองอยากได้ต้องได้ ทำให้รู้สึกว่าเราโชคดีมากที่คุณแม่มักจะหาสิ่งที่เราอยากได้ให้กับเราได้เสมอๆ ผมไม่ได้เป็นคนเรียนเก่ง เกรดเฉลี่ย 2.20 ถือว่าเปนอะไรที่เพอเฟคแล้ว บุคลิกไม่ได้ดูดี แถมการเข้าสังคมของเรายังเป็นปัญหาเพราะชอบอยู่ในโลกส่วนตัวเงียบๆเพียงคนเดียว
ผมใช้เวลาเรียนม.ปลายถึง 5 ปี เพราะ ติด 0 บางรายวิชา แต่ไม่ยอมไปซ่อม เพราะติดกับดักความคิดตัวเองที่ว่าไปง้อใครม้กระทั่งครู อาจารย์ เราเอาตัวรอดได้ เพราะ ตลอด 5 วันของการเข้าเรียน ผมจะใช้ชีวิตที่ร้านเกมส์ พอตกดึกก้อไปสังสรรค์กับบรรดารุ่นพี่ที่เรารู้จักตามผับ ตามบาร์ เลยทำชีวิตเรายิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตคือการที่ผมได้เจอกับผู้หญิงคนนึงครับ เค้าคือคู่ชีวิตของผมผู้หญิงที่ชื่อ จุลลิดา วิภาหัสน์ เค้าเข้ามาคอยฉุดผมออกจากโลกที่ไร้สาระที่ผมเคยเป็น แต่เรื่องราวก็ไม่ได้เป็นไปดั่งใจเพราะผมต้องรับผิดชอบกับอีกชีวิตนึงที่ต้องเกิดมาที่อยผุ่ในท้องของเธอ ทั้งที่ผมอายุเพิ่ง 21 วัยรุ่นบางคนอาจมองว่าชีวิตที่กำลังจะเกิดมาอาจเป็นอุปสรรคของใครบางคน แต่สำหรับผมคือแรงบันดาลที่เราต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นและประสบความสำเร็วในชีวิตให้ได้ เพราะความสำเร็จมักจะเริ่มต้นจากความไม่พร้อมเสมอ ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองและรีบเรียนจนจบมาได้ตอนอายุ23จากรามคำแหง

หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับงานประจำเพื่อดูแลครอบครัวของผมตั้งแต่นั้นมา ผมมีรายได้จากงานประจำ 1 หมื่นบาท ตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของครอบครัว ผมอยากให้ลูกสาวของผมเข้าเรียนในโรงเรียนดีๆผมเลยส่งเข้าเรียน โรงเรียนเอกชนค่าเทอมอาจดูไม่แพงสำหรับใครบางคน แต่หนักสำหรับผมคือเทอมละประมาณ 25000 ตอนนั้นผมตั้งใจทำงานมากแต่ผลลัพท์ไม่ตอบโจทย์ ผมกับแฟนเลยปรึกษาว่าจะทำอะไรเพิ่มดีเพราะรายได้ทางเดียวไม่พอใช้ วินาทีนั้นเอมสตาร์เลยเข้ามาในชีวิตจากเพื่อนรุ่นพี่คนนึงที่ชื่อโอ้ต แต่เราใช้หูฟัง ไม่ใช้ใจฟัง เลยปฏิเสธไปเพราะเราคิดว่าคนแบบเรา พูดไม่เก่ง บุคลิกไม่ดี เพื่อนน้อยน่าจะทำไม่ได้ จนสุดท้ายผมไปเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัด หลังจากทำงาน 2 งานในเวลาเดียวกันผมสามารถหาเงินได้เดือนละ 50000 บาทในอายุเพียง 24 ตอนนั้นเรารู้สึกว่ารายได้โอเค แต่ผมมาเริ่มเอะใจกับงานที่ทำว่าคุณภาพชีวิตเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นรึเปล่า ผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวส่งลูกขึ้นรถตู้โรงเรียน เจอหน้าพูดคุยกัน 1 ชม. แล้วไปทำงานประจำ 8.00-17.00 กลับมาเจอหน้าลูกที่บ้านครึ่งชั่วโมงเพื่อเอาของไปขายที่ตลาด ปิดร้านกลับถึงบ้านเที่ยงคืน เจอลูกตอนนอนแล้ว เชคบัญชี นอนตอนตี1 ชีวิตของผมเป็นแบบนี้ตลอด 7 วัน เจอหน้าลูกน้อยลง อยู่กับแฟนน้อยลง และไม่ได้เข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่เลย จนโอกาสที่ชื่อเอมสตาร์กลับเข้ามาอีกครั้งจากบุคคลที่ดูเปนมืออาชีพมากขึ้นจากคุณ กอล์ฟ พิชัย อ่องสกุล ทำให้ผมเห็นว่าวิถีชีวิตที่ไร้กังวล และแรงบัลดาลใจของผมคือมีเงินและเวลาในการเลี้ยงดูครอบครับ

ความสำเร็จของผมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตอนผมเริ่มต้นไม่มีใครเหนด้วยกับผมสักคนเดียวแม้กระทั่งคนที่ไว้ใจที่สุดอย่างภรรยาผม ต้องทนฟังเสียงคนปฏิเสธจากทั้งภายนอกภายใน แม่ยายเรียกงานที่ผมทำว่าเป็ยเซลล์ขายยาสีฟัน แต่ถ้าวันนี้เป้าหมายเราชัดเราจะไม่มองปัญหา ผมค่อยๆเปลี่ยงตัวเองทีละนิดๆฟังสื่อ และเข้ารอบประชุมเพิ่มมากขึ้นจนผมใช้เวลาการทำในเดือนแรกเป็น HB รายได้ 2000 บาท และเป็นอยู่นานถึง 3 เดือนจนผมเป็น BZ ในเดือนที่ 4 แล้วน้องน้ำก้อมาเยือนทำให้ตอนนั้นทีมงานเราหายไปหมด เหลือเพียง พี่นัท เมืองสุรินทร์ แค่คนเดียว ตอนนั้นผมมานั่งคุยกับตัวเองอีกครั้งเพราะเสียงจากคนรอบด้านถาโถมเข้ามาอีกครั้งบอกว่าเราไม่มีทางสำเร็จได้ “ถ้าคน1000คนบอกว่าเราไม่สำเร็จ แต่ตัวเราบอกว่าสำเร็จได้ก็คือสำเร็จได้” ผมมองสิ่งที่เหลืออยู่ไม่ได้มองสิ่งที่หายไป จากควมตั้งใจของคนหนึ่งคนทำให้ผมกลับมาสู้ใหม่และเป็น BZ อีก 3 เดือน บางคนอาจรู้สึกท้อไปแล้วเพราะทำ 6 เดือนยังรายได้อยู่ที่ 4500 แต่ผมไม่ท้อ เพระถ้าท้อจะเป็นถ่าน แล้วถ้าผ่านจะเป็นเพชร จนสุดท้ายผมใช้เวลาทั้งหมด 14 เดือนสามารถพิชิตรายได้ 1 แสนบาทด้วยตำแหน่งที่ชื่อว่ารูบี้สตาร์ และทริปการท่องเที่ยว 2 ประเทศ เกนติ้ง-มาเลเซีย และ มัลดีฟ

เคล็ดไม่ลับกับความสำเร็จ
1.ความเชื่อ ความเชื่อของผมไม่เคยตก เชื่อในอัพไลน์ สินค้า ระบบ และที่สำคัญคือตัวเราเอง เราต้องปกป้องความฝันของเราให้ได้ อย่าให้น้ำลายราคาถูกมาดูถูกความฝันของเรา
2.การเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมเชื่อว่าทุกคนสำเร็จได้หมดดั่งคำที่เค้าว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงตัวเองเท่ากับอัตราการประสบความสำเร็จ ต่อให้เราโปรไฟล์ดี แต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับระบบยังไงก็สำเร็จยาก
3.ไม่คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว รู้แล้ว ถ้าคิดแบบนี้เราจะหยุดการพัฒนาทันที เราจะยิ่งสำเร็จถ้าเราเรียนรู้มากขึ้นๆและเก่งกับงานที่เราทำมากขึ้น
เมื่อวันที่ 25 กันยายน เวลา 5:51 น.