โดย Tee+ Bird The Clover เก็บตกโดย ตุ้ม The Clover
Blueprint = พิมพ์เขียว
ซึ่งพิมพ์เขียวที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้
คงไม่ใช่ พิมพ์เขียว ที่ใช้ในการออกแบบบ้าน
แต่หมายถึงพิมพ์เขียวชีวิต พิมพ์เขียวความคิดของเรา
Why Blueprint? ทำไมต้องมีพิมพ์เขียวชีวิต
- Plan , Prepare เพื่อใช้ในการวางแผนชีวิต
ถ้าเราจะสร้างบ้านซักหลัง มูลค่าซัก 10 ล้าน
คิดว่า เราจะต้องมีการวางแผนในการสร้างไหม
วันนี้ เราอยากมีชีวิตอยู่อีกกี่ปี? คิดว่ามูลค่าชีวิตเราเท่าไหร่?
ทำไมเราถึงไม่วางแผนชีวิตของเราให้ดี
How to? ทำอย่างไรถึงจะมีพิมพ์เขียวชีวิต
Goal - ตั้งเป้าหมายชีวิตก่อน ว่าเราอยากได้เป้าหมายแบบไหน
การสร้างบ้าน 1 หลัง สถาปนิก คงออกแบบให้เราไม่ได้
ถ้าเราไม่ได้บอกว่า อยากได้บ้านแบบไหน กี่ห้องนอน กี่ชั้น
Tools - เครื่องมือ ที่จะนำเราไปสู่เป้าหมาย
การจะไปให้ถึงเป้าหมายในเวลาที่กำหนด
เราต้องรู้จักเลือกเครื่องมือให้ถูกต้อง เครื่องมือที่นำพาเราไปสู่สิ่งที่เราต้องการได้
ความสำเร็จ แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
Education (การเรียน) / Job (การงาน) / Life (ชีวิต)
ความสำเร็จ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ
survivor (อยู่รอด) / successful (สำเร็จ) / significant (เป็นที่จดจำ)
ถ้าเลือกได้แค่ชนิดเดียว และระดับเดียว
คนส่วนใหญ่ คงเลือก อยากสำเร็จในชีวิตแบบเป็นที่จดจำ
วันนี้ เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง ทำอย่างไร
ถึงจะสำเร็จในชีวิต แบบชนิดที่เป็นที่จดจำ
อุปสรรค ที่มักเกิดขึ้นคือ คำว่า รู้แล้วๆ
คนที่พูดว่า รู้แล้วๆ มักจะรู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ทำให้สำเร็จ
วันนี้คนทุกคน มักจะมี Blind Spot หรือ จุดบอด มันคือ
Something you don't know that you don't know
หรือ บางสิ่งที่คุณไม่รู้ว่าคุณไม่รู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
เพราะเมื่อเราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ เราก็จะไม่ได้ทำอะไรกับมัน
ยกตัวอย่าง บางสิ่ง ที่เราอาจจะไม่รู้ว่า เราไม่รู้
คำว่า จุติ คนส่วนใหญ่จะคิดว่า แปลว่า "เกิด" แต่จริงๆ แปลว่า "ตาย"
"พิศดาร" กับ "พิสดาร" ส่วนใหญ่คนจะคิดว่าใช้ "ศ" แต่จริงๆใช้ "ส"
คำว่า "พิสดาร" ส่วนใหญ่แปลว่า "ประหลาด" แต่ที่ถูกคือ "ละเอียด"
โลกของแฟชั่น อันดับ 1 คือ Louis อันดับ 2 คุณคิดว่า คืออะไร?
คนส่วนใหญ่จะตอบว่า Chanel / Prada / Gucci
แต่จริงๆแ้ล้วคือ ยี่ห้อ ZARA ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ราคาไม่สูง
แต่จุดเด่นคือ เป็น Speed Fashion ยี่ห้ออื่นใช้เวลา 3-6 เดือน
กว่าจะมีการออกแบบไปจนถึงการผลิต ในขณะที่ ZARA
ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 2 สัปดาห์ ไม่เน้นโฆษณา
เสื้อผ้าราคาไม่แพงมาก เน้นสร้างเครือข่าย ขยายสาขา
ส่งผลให้เจ้าของ ZARA เป็นคนที่รวยอันดับ 7 ของโลก
Paradigm Shift มุมมองของโลกมันเปลี่ยนไป
ปัจจุบัน Trend ของโลก มันคือยุคของเครือข่าย
เบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุด คืออะไรไม่รู้ แต่เบอร์เกอร์ที่ขายดีที่สุด
ขายผ่านระบบเครือข่ายที่ชื่อว่า McDonald
กาแฟที่อร่อยที่สุด อยู่ที่ไหนไม่รู้ แต่กาแฟที่ขายดีที่สุด
ขายผ่านระบบเครือข่ายที่ชื่อว่า Starbucks
สุกี้ที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ไหนไม่รู้
แต่สุกี้ที่ขายดีที่สุด ขายผ่านเครือข่ายที่ชื่อว่า MK Suki
วันนี้ สิ่งสำคัญ ในการรับฟังข้อมูล คือ อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว
แต่จริงๆแล้ว ยังมีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า น้ำเต็มแก้ว
นั่นคือ การทำตัวเป็น แก้วคว่ำ คือน้ำในแก้วก็ไม่มี
แล้วยังไม่ยอมรับอะไรเพิ่มอีกต่างหาก
สมการที่น่าแปลกบนโลกใบนี้ คือ
คนเกือบ 100% อยากได้ Passive Income
แต่มีคนแค่ 5% ที่สำเร็จและได้ Passive Income จริงๆ
สาเหตุคือ คนที่ได้ ต้องคิดแตกต่างจากคนหมู่มาก
ถ้าวันนี้ เรายังคิดเหมือนคนหมู่มาก ทำเหมือนคนหมู่มาก
เราก็ไม่มีทางได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากคนหมู่มาก
การได้มาซึ่ง Passive Income คือการเป็น Business Owner
ซึ่งการเป็น B มีอยู่ 3 แบบ ตามวิวัฒนาการ
1) B ซ้อนด้วย E บริษัททั่วไป หาลูกจ้างที่รักองค์กรจริงๆยาก
ลักษณะของผังองค์กร เป็นพีระมิด แซงได้ แต่ยาก
2) B ซ้อนด้วย S ธุรกิจ Franchise มีความเป็นเจ้าของมากขึ้น
แต่ขายเองไม่ได้ แนะนำคนอื่นให้ทำได้ แต่เราไม่ได้อะไร
3) ฺB ซ้อนด้วย B ธุรกิจ Network Marketing ลงทุนน้อย
ความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องมีความรู้ประสบการณ์มาก่อน มีระบบช่วย
และที่สำคัญ เราสามารถแนะนำให้คนอื่นมาเป็น B กับเราได้
Work Hard หรือการทำงานหนัก ไม่ได้ทำให้เราสำเร็จเสมอไป
แต่เราต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่า วันนี้
ถ้าอยากสำเร็จ เราต้องขยัน ... คือถ้าเราขยัน เราผ่านรอบแรก
แต่คนขยันทุกคน ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกคน
ด่านที่สอง ที่เราต้องผ่านให้ได้คือ Choosing Skill
ทักษะในการเลือกเครื่องมือที่ทำให้เราสำเร็จได้
ภายในระยะเวลาที่เรากำหนดเอาไว้
พี่นุ่น-พี่จู๊ด ตัวอย่างของคนที่ Profile ดีอยู่แล้ว
แต่ไม่เคยปฏิเสธโอกาสที่เข้ามาในชีวิต
ไม่เคยให้ชีวิตที่ดีอยู่แล้ว มาขัดขวางโอกาสของชีวิตที่ดีกว่า
โอกาสมีอยู่ทุกที่ สำคัญที่เราต้องมีทัศนคติที่ดีต่อโอกาส
เปิดใจรับฟัง >> ศึกษา >> ตัดสินใจลงมือทำ >>
ตัดสินใจทำจนกว่าจะสำเร็จในสิ่งที่เราเลือกแล้ว
วันนี้ ถ้าทำแล้วยังไม่สำเร็จ ก็เหมือนยังไม่ได้ลงมือทำ
การวิเคราะห์การเงินส่วนตัว ที่เราควรรู้
อัตราส่วนความอยู่รอด = รายได้ / รายจ่าย ถ้าเกิน 1.0 ก็รอด
อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้* / รายจ่าย แต่มีข้อแม้ว่า
รายได้* = รายได้จากทรัพย์สินที่ไม่ใช่เงินเดือน หรืองานประจำ
พูดง่ายๆคือ คุณมี Asset ที่สร้าง Passive Income มากกว่ารายจ่าย
จุดหักเห ที่ทำให้พี่นุ่น พี่จุ๊ด ตัดสินใจ เข้ามาทำธุรกิจ Aimstar
เพราะเป็นธุรกิจที่ไม่มีการ "แข่งขัน" มีแต่การ "แบ่งปัน"
วันนี้ ถ้าอยากเป็น คนสำเร็จในชีวิต
สิ่งสำคัญคือ รู้จัก คิดนอกกรอบ อย่าติดกรอบความคิด
และต้องเป็นคนมุ่งมั่น โดยไม่หลอกตัวเอง
คุยกับตัวเองให้จบ ถึง พิมพ์เขียวชีวิตของเรา
อยากมีชีวิตแบบไหน? อยากได้เมื่อไหร่?
ตอนนี้ทำอะไรอยู่? กำลังจะทำอะไร?
สิ่งที่ทำหรือกำลังจะทำให้เราได้ไหม? ให้ได้เมื่อไหร่?
ถ้าไม่ได้ภายในระยะเวลาที่เรากำหนดไว้
แล้วเราทำอะไรอยู่? แล้วเราทำไปทำไม?
แล้วเราอยากเปลี่ยนแปลงไหม ???
คนหลายคน ไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลง จนวิกฤตเ้ข้ามา
ต้องใช้เงินก้อน!! เกิดปัญหาสุขภาพ!!
โดน Layoff จากงานประจำ!!
คำถามคือ ทำไมต้องรอวิกฤต ถึงจะคิดเปลี่ยนแปลง
ทำไมถึงไม่ใช้ วิสัยทัศน์ และเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง
ในแต่ละวันที่ผ่านไป เรารู้จักสร้าง Asset ให้ตัวเองบ้างไหม
หรือเราเอาแต่ปลูกต้นไม้บนที่ดินของคนอื่นอยู่
ถ้าเราอยากเริ่มต้นสร้างชีวิต สร้าง Asset ให้กับตัวเอง
เราต้องทำอย่างไรบ้าง??? อันดับแรกคือ
เราต้องอยู่ในสังคมที่ถูกต้องก่อน อยู่ในสังคมที่สร้างมูลค่า
เพราะคนส่วนใหญ่อยากขยันแต่ขี้เกียจ รักดีแต่ทำไม่ได้
เราจึงต้องมาอยู่ในสังคมที่ดีก่อน เพราะเราอาจจะไม่สามารถ
ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในทันที เราต้องค่อยๆเปลี่ยน
เปลี่ยนอะไร?? เปลี่ยน Data ที่จะ Input เข้ามาในตัวเรา
เพราะคนเราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ หนังสือที่เราอ่าน
คนที่เราคบ สังคมที่เราอยู่ และกิจกรรมที่เราทำ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงต้องค่อยๆ เปลี่ยนสังคม
เพราะถ้าเราอยากสร้างชีวิต เราก็ต้องหาสังคมที่เขาคิดสร้างชีวิต
จริงๆ มีมุข มีสาระดีๆ อีกเยอะมาก ในงานๆนี้
แต่เนื่องจากฟังเพลิน มันเกิน จนลืมจดไปหลายๆช่วง
ก็เลยเก็บตกมาให้ได้ แต่เพียงเท่านี้
ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคนนะครับ
My name is Prayuth Chatsakda and I'm Clover ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น