Kittipong Suthatongthai
เพื่อนๆ มีสิ่งที่อยากได้ถึงขีดสุดไหมครับ?

ผม "เคย" มีครับ!

ความฝันของผมก็น่าจะเหมือนกับวัยรุ่นอื่นๆ ทั่วไป นั่นก็คืออยากได้รถสปอร์ตซักคัน แต่เชื่อไหมครับ ตอนที่ผมอยากได้รถสปอร์ตซักคัน ผมยังไม่เคยนึกเลยว่ารถสปอร์ตที่เราอยากได้ หน้าตาเป็นแบบไหน รุ่นอะไร ยี่ห้ออะไร สีอะไร

จนผมได้มาทำงานที่กรุงเทพฯ และบังเอิญไปพักอยู่ในคอนโดเดียวกับเพื่อนผมอีกคนที่ชื่อว่า "เต้"

รถสปอร์ตคันหนึ่งสีดำจอดอยู่ด้านล่างของคอนโด (ภายหลังคุณเต้เอามา Wrap เปลี่ยนเป็นสีเหลือง) ผมเริ่มรู้สึกอะไรแปลกๆ เวลาเดินผ่าน มันเป็นความรู้สึกบาดลึก ค้างคาใจ ทำให้ใจสั่นทุกครั้งที่ได้เห็น ผมเริ่มรู้สึกถูกชะตากับรถคันนี้

แต่สุดท้าย ความรู้สึกค้างคาใจก็มาพังทลายลงเมื่อได้รับรู้ว่า รถคันนั้นก็คือ Audi TT ของเต้ อร่าม ชวเจริญพันธ์ ซึ่งขณะนั้นทำธุรกิจเอมสตาร์มาได้สักระยะหนึ่ง และใช้เงินที่หามาได้้วยตัวเองซื้อรถคันนี้มา

ผมรู้สึกตื่นเต้นที่คนที่เป็นเพื่อนของเรา อายุเท่าเรา สามารถก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งในขณะนั้นผมเพิ่งมากรุงเทพฯ ใหม่ๆ ยอมรับเลยว่าในใจคิดแค่ว่าแค่เปลี่ยนจาก Mitsubishi Lancer ที่ใช้อยู่เป็น Lancer EX ก็สุดความสามารถแล้ว

ผมรีบติดต่อเต้ทันที เพื่อขอลองนั่งรถของเต้ดู และลองขอขับรถวนใต้คอนโด 1 รอบสั้นๆ แต่เชื่อไหมครับว่า 1 รอบสั้นๆ รอบนั้น ผมจำทุกรายละเอียด ทุกสัมผัส ทุกความเคลื่อนไหวของการขับรถได้ทั้งหมด

ผมได้ขอบคุณเต้ที่ให้ลองรถในวันนั้นและกลับขึ้นห้องไปทำอะไรบางอย่าง ผมเปิดโปรแกรม Microsoft Exel และทำตารางการเงินขึ้นมาตารางนึง ซึ่งผมบอกได้เลยว่ามันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผมไปตลอดการ

ตาราง Excel ของผมนั้นง่ายๆ มันเป็นตารางการวางแผนการเงินระยะยาวเป็นเวลา 2 ปี ผมได้ทำการใส่ตัวเลขเงินเดือนของผมลงไปทุกเดือน ล่วงหน้าเป็นเวลา 24 เดือน จากนั้นใส่ตัวเลขรายจ่ายลงไปทุกเดือน เพื่อคำนวนหาเงินคงเหลือ ซึ่งทำให้ผมได้รู้ว่าการที่เงินเดือนของผมในขณะนั้นอยู่ที่สองหมื่นกว่าบาท ถ้าผ่านไปสองปีผมจะพอมีลุ้นได้ Audi TT เหมือนเต้เพื่อนผมรึเปล่า

เชื่อไหมครับว่าผมเห็นตัวเลขเงินคงเหลือหลังจากผ่านไปสองปีของผม ผมแทบทรุดลงไปกองกับพื้น เพราะแค่ค่าเปลี่ยนล้อแมกซ์ที่ถามมาจากเต้ ผมก็ไม่มีปัญญาแล้ว

แต่ความฝันที่ได้เคยสัมผัสไปครั้งหนึ่งแล้ว (ตอนเต้ให้ลอง) มันยังค้างคาอยู่ในใจของผม ความรู้สึกและสัมผัสต่างๆ มันยังติดอยู่ที่ปลายประสาท และบ่งบอกว่าผมควรทำอะไรบางอย่าง

เมื่อเป้าหมายมันชัดเจนและแรงกล้า ผมขาดเพียงอย่างเดียวคือ "วิธีการ"

จำได้ดีว่าตอนนั้นผมมีเงินเก็บติดตัวเพียงแค่ 20,000 บาท แต่ผมรู้ดีว่าผมต้องทำอะไรเพิ่ม ผมต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ความฝันมันใกล้เข้ามาอีกนิด ไม่ใช่ไม่ทำอะไรซักอย่างแล้วปล่อยให้ฝันมันไกลออกไปเรื่อยๆ

ผมยืมเงินแม่มาประมาณ 20,000 บาท เพื่อซื้อกล้องถ่ายรูปมูลค่า 40,000 บาท แล้วทำการศึกษาวิธีใช้ให้เร็วที่สุด แล้วถ่ายรูปใว้พันกว่ารูป เพื่อส่งรูปขึ้นไปขายออนไลน์ผ่านเว็บขายรูปชื่อดัง เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ผมขายกล้องที่ซื้อมาทิ้งทันทีเพื่อนำเงินไปคืนแม่โดยเร็ว ผมเริ่มมีรายได้จากการขายรูปออนไลน์เดือนละประมาณ 3,000-5,000 บาทตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ผมทำเว็บไซต์ข่าวสารวงการไอทีขึ้นมาเว็บหนึ่ง เป็นเว็บไซต์ที่ผมคิดว่าประเทศไทยยังไม่มีเว็บแบบนี้ และคนที่อยู่ในวงการไอทีก็ต้องการเว็บแบบนี้ ผมคิดมานานแล้วว่า "ทำไมไม่มีใครทำ?" ผมเคยถามคนอื่นว่าทำเว็บแบบนี้มันจะไปรอดหรือเปล่า จำได้ว่าไม่มีใครเอาด้วย แต่ผมก็ยังดื้อที่จะทำมันขึ้นมา จนตอนนี้เว็บดังกล่าวก้าวขึ้นมาเป็นเว็บข่าวสารไอทีเฉพาะทางที่มีคนเข้ามากที่สุดในประเทศ เดือนละหลายล้านคน สร้างรายได้ให้ผมเดือนหนึ่งเกิน 6 หลัก

ผมค้นหาตัวเองจนเจอว่าถนัดในด้านอะไร และพาตัวเองไปเจอคนที่ต้องการคนแบบผม ทำให้มีงานที่ผมสามารถคอยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องที่ผมถนัดได้ และได้ค่าจ้างมากกว่างานประจำเสียอีก

ในงานประจำผมใช้เวลา 1 ปีในการขยันขันแข็งมากกว่าคนอื่น ทำมากกว่าคนอื่น และกล้าคิดแตกต่างจากคนอื่น จน 1 ปีผมสามารถขึ้นตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมได้ถึง 3 รอบ เงินเดือนขึ้นมากว่า 75%

ตาราง Excel การเงินของผม ตั้งแต่วันแรกที่ผมทำขึ้นมา มันไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ละวัน แต่ละเดือนจะมีรายรับใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ งานใหม่ๆ เข้ามาตลอด และนับวันยิ่งใกล้ความฝันของผมเข้าไปเรื่อยๆ

ผมกล้าที่จะนึกถึงชื่อรุ่นของรถในฝัน ก็คือ Audi TTS ผมกล้าที่จะนึกสีของรถ ก็คือสีขาว ผมกล้าที่จะนึกถึงรูปแบบของล้อแม็กซ์ที่ว่าแพงนักแพงหนา ก็คือสีเทาเข้มไทเทเนียม ผมกล้าที่จะมองราคาของตัวรถ ที่แปะป้ายใว้ว่า 3 ล้าน 8 แสนบาท

ผมเข้ามาทำเอมสตาร์ในวันที่ 29 เมษายน เพียงเพื่อตอกย้ำความคิดที่ว่า ถ้าเรามีเป้าหมาย เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ อย่าคิดว่าสิ่งที่เราทำมานั้นมันพอแล้ว ความไม่แน่นอนเป็นอะไรที่แน่นอนที่สุดที่เราจะไม่มีวันหลีกเลี่ยงได้

ตาราง Excel ของผมมันบอกว่า "ฝัน" ของผมก็คือการซื้อรถ Audi TTS สีขาว ล้อเทาเข้ม มีเวลาระบุใว้ชัดเจนแล้ว ก็คือวันที่ 23 สิงหาคม ปี 2555 ซึ่งก็จะตรงกับวันเกิดของตัวเองพอดี เหมือนเป็นการซื้อของขวัญให้กับตัวเอง โดยใช้เวลานับตั้งแต่ทำตาราง Excel การเงินส่วนตัว จนถึงวันนั้นรวมแล้ว 1 ปีกับอีก 9 เดือนเท่านั้น

ผมบอกใว้ช่วงต้นของบทความว่า ผม "เคย" มีสิ่งที่อยากได้ถึงขีดสุด และตอนนี้เพื่อนๆ ก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร และมีกำหนดระยะเวลาใว้วันไหน

แต่ต่างกันที่ตอนนี้ผมคงต้องขอตัดคำว่า "เคย" ทิ้งไป...

เพราะวันที่ 23 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา...

Audi TTS สีขาว ล้อสีเทาไทเทเนี่ยม ป้ายแดง ได้มาจอดที่คอนโดของผม จอดอยู่ข้างๆ รถของคนที่เป็นแรงบันดาลใจของผมมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาก็คือคุณ "เต้ อร่าม" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผมซื้อรถในฝันเร็วกว่ากำหนด 5 เดือน

และตอนนี้ รายได้จากเอมสตาร์ของผมสามารถผ่อนค่างวดในแต่ละเดือนได้เรียบร้อยแล้ว

ขอบคุณความฝันที่ไม่ทิ้งกัน และขอบคุณตัวเองเช่นกันที่ไม่ท้อตอนเดินทางสู่ฝัน

ขอบคุณ เต้ อร่าม ที่ทำให้ผมรู้ว่าฝันของผมคืออะไร ขอบคุณที่มาเปิดโอกาสในวันที่ผมยังต้องการความท้าทายใหม่ๆ ให้กับชีวิต

ขอให้ทุกคนที่ได้รับฟังเรื่องราวนี้จากผม มีพลังในการเดินทางตามหาความฝัน ฝันจะไม่เป็นแค่ฝันถ้าเราลงมือทำ และในวันที่ฝันเป็นจริง คุณจะรู้ว่าความสุขที่สุดในชีวิตเป็นยังไง

ฝันที่ดี คือฝันแล้วลงมือทำให้มันไม่เป็นเพียงฝัน

สวัสดีครับ

ปอนด์ Clover Gens